ภูมิคุ้มกันผิดปกติจาก mRNA วัคซีน
ผมเคยออกมาเตือนนานแล้วว่า mRNA จะสร้างปัญหาให้กับภูมิคุ้มกัน ทำไมหรือครับ เพราะมันไปทำให้ภูมิคุ้มกันของเราทำร้ายเซลล์เราเอง สไปก์โปรตีน เป็นโปรตีนของไวรัส เป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกายมนุษย์ ร่างกายเราจึงสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านมัน แต่สิ่งที่คน (หมอ) ส่วนใหญ๋ ไม่เข้าใจ คือ ภูมิคุ้มกันของเราจะทำลายเซลล์ที่สร้างสไปก์โปรตีนด้วย
ใช่ครับ ฟังไม่ผิด ภูมิคุ้มกันจะทำลายเซลล์ของเราเองด้วย
ทำไมหรือ? ง่ายๆครับ เพราะว่า ภูมิคุ้มกันนึกว่าเซลล์ที่สร้างสไปก์โปรตีน เป็นเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส อย่าลืมว่าไวรัส อยู่กับเรามานานมาก โควิด ไม่ใช่ไวรัสตัวแรกที่มนุษย์ต้องเผชิญ
เพราะความที่ เผ่าพันธ์ุมนุษย์มีชีวิตร่วมกับไวรัสมานาน ร่างกาย (ภูมิคุ้มกัน) ของเราจึงมีวิวัฒนาการในการต่อกรกับไวรัส
ไวรัสเป็น พยาธิที่ต้องอาศัยในเซลล์ หมายความว่า มันไม่สามารถ มีชีวิต หรือ สืบพันธ์ได้ภายนอกเซลล์ ตัวมันมีองค์ประกอบหลักแค่สามอย่าง คือ เปลือก (สไปก์เป็นส่วนหนึ่งของเปลือก) เอนไซม์ และสารพันธุกรรม (ซึ่งอาจจะเป็น DNA หรือ RNA แต่ในกรณีของโควิดเป็น RNA ) ไม่มีแม้แต่ส่วนที่ใช้สร้างพลังงาน (ไม่โตคอนเดรีย หรือ คลอโรฟิลล์) ดังนั้นเวลาที่ไวรัสจะขยายพันธ์ุเพิ่มจำนวนของมัน มันต้องเข้าไปอยู่ในเซลล์ แล้วใช้อุปกรณ์ต่างๆในเซลล์ที่มันเข้าไปสิงอยู่ สร้างตัวมันขึ้นมา ปัญหาคือ เมื่อไรที่ไวรัสเข้าไปในเซลล์ของเราได้ มันก็จะสร้างไวรัสออกมาจากเซลล์เราได้เรื่อยๆไม่มีวันจบ โชคดีที่ภูมิคุ้มกันของเราพัฒนากลไกเพื่อจัดการกับปัญหานี้ โดยการเฝ้าดูว่ามีโปรตีน “แปลกปลอม” อยู่บริเวณผิวของเซลล์เราไหม ถ้ามีภูมิคุ้มกันก็จะรู้ว่า เซลล์ๆนั้นถูก “ไวรัสเข้าสิง” แล้ว ภูมิคุ้มกันก็จะทำลายเซลล์ๆ นั้นที่กลายร่างเป็นรังของไวรัสทิ้ง ร่างกายก็จะกำจัดไวรัสลงได้
ปัญหาเกิดเมื่อเราดัน หลอกให้เซลล์เรา กิน “นาโนลิปิด” หรือ ไขมันนาโน เข้าไปโดยที่ไม่รู้ว่าข้างในหยดไขมันนั้น มีสารพันธุกรรม RNA gene ของไวรัสซ่อนอยู่ สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้คือ ไขมันเป็น อาหารของเซลล์ทุกชนิดในร่างกายมนุษย์ ดังนั้น หยดไขมันนาโนที่ซ่อนยีนของไวรัสไว้ข้างในจึงเข้าไปในเซลล์ของเราได้ทุกเซลล์ ทุกอวัยวะ โดยเฉพาะเซลล์ที่ชอบไขมันอย่างเซลล์สมอง หรือเม็ดเลือดขาว
ปัญหาเกิดเมื่อเซลล์เหล่านั้นเริ่มสร้าง โปรตีนหนาม หรือ สไปก์โปรตีน ตามคำสั่งของยีนไวรัส (ที่มาหลอกเราว่าเป็น mRNA) โปรตีนที่สร้างนั้นก็จะถูกหลั่งออกมาจากเซลล์โดยมีบางส่วนติดอยู่บนผนังเซลล์ เนื่องจากโปรตีนนี้เป็น โปรตีน “แปลกปลอม” ไม่ใช่โปรตีนปกติที่ร่างกายมนุษย์สร้างขึ้น ภูมิคุ้มกันของเราก็จะคิดว่า เซลล์ของเรา “ติดเชื้อไวรัส” และจะลงมือทำลายเซลล์เหล่านั้นทันที สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจคือ ในครั้งแรกที่ฉีดร่างกายยังไม่มี ภูมิคุ้มกันต่อ “โปรตีนหนาม” ปฏิกิริยาจึงยังไม่รุนแรงนัก แต่พอครั้งที่สอง สาม สี่ ….. ภูทิคุ้มกันต่อโปรตีนหนามนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ภูมิเหล่านี้ไม่ทำอะไรกับ “หยดไขมัน” นาโนลิปิดที่ฉีดเข้าไปใหม่ นาโนลิปิดที่ยัดไส้ยีนไวรัส เหล่านั้นก็จะกระจายตัวเข้าไปตามเซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย และไปสั่งให้เซลล์ที่มันเข้าไปสร้างโปรตีนหนาม พอเริ่มสร้าง ภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนหนามที่สร้าง ก็จะทำงานทันที ทำลายเซลล์เหล่านั้นทันที ซึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมยิ่งฉีดมากยิ่งผลข้างเคียงมากขึ้น
หลายคนอาจจะนึกในใจว่า ภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนหนามนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการหรือ? คำตอบคือ ใช่และไม่ใช่ครับ ใช่เพราะภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนหนามนี้จะกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ได้ แต่ที่ไม่ใช่คือ ต้องเป็นภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสสายพันธ์ุนั้นๆ หมายความว่า ถ้าเชื้อที่บุกเข้ามาเป็นเชื้อเดลต้า ภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนหนามต้องเป็นภูมิคุ้มกันต่อหนามของเชื้อเดลต้า อ้อหลายท่านอาจจะไม่ทราบว่า เวลาที่เชื้อกลายพันธ์ุ ส่วนที่กลายพันธ์ูคือส่วนหนามของไวรัสนี่ละครับ พอหนามเปลี่ยนความสามารถในการเข้าเซลล์ก็เปลี่ยนไป ดังนั้นภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนหนามที่ดีนั้น ต้องเป็นภูทิคุ้มกันที่จำเพาะต่อสายพันธ์ุนั้นๆ และถ้าไม่จำเพาะเชื้อก็จะ “หลบภูมิ” ติดเราไดทั้งที่มีภูมิคุ้มกันเยอะแยะ อย่างที่เห็นกันตอนนี้
แต่สิ่งที่หมอลืมคิดคือ ภูมิคุ้มกันที่สร้างจาก mRNA วัคซีนนี้ มีความจำเพาะ สูงมากต่อ โปรตีนหนาม เวอร์ชั่นวัคซีน ทุกครั้งที่ฉีดซ้ำ ก็จะกระตุ้มภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนหนามเวอร์ชั่นนี้ ซึ่งจะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในการทำลายเซลล์ที่สร้างโปรตีนหนามเวอร์ชั่นวัคซีนนี้เพิ่มสูงขึ้น เซลล์ไหนบ้าง? กลับไปอ่านข้างบนดูอีกทีครับ
ใช่ เซลล์ที่หลงกิน นาโนไลปิด ไขมันนาโนที่ซ่อน ยีนโปรตีนหนาม ไงครับ
ฟังถึงตรงนี้ก็เริ่มสยอง บวกกับสงสัยไหมครับ ว่าบรรดา ทำไมผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายที่ออกมาเชียร์ยาฉีด mRNA ไม่ยักรู้เรื่องนี้ มีสองคำตอบครับ
ไม่ถูกบริษัทยาหลอก
ก็ทำงานให้บริษัทยา
ใครไม่เชื่อไปเชิญท่านเหล่านั้นมาขึ้นเวที ดีเบตกับผมได้เลยครับ แต่คิดว่าคงไม่มีใครกล้า !!
ปัญหาคือ มันไม่ได้จบแค่นั้นสิครับ ที่เล่ามาเป็นแค่กลไกเดียวที่ ภูมิคุ้มกันจาก mRNA vaccine สร้างปัญหา มีกลไกอื่นๆอีก อยากรู้ว่าคืออะไร ตามอ่านต่อในตอน ๒ ครับ
อ้อ สำหรับท่านที่สงสัยว่า “พลาดไปแล้วจะทำอย่างไร?” ไม่ต้องกังวลครับ ตามอ่านให้จบซีรีย์นี้ท่านจะได้รับคำตอบครับ

